คำประกาศเกียรติคุณคนไทยตัวอย่างประจำปีพุทธศักราช ๒๕๓๕
นายแพทย์วีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์
แพทย์แผนปัจจุบันของประเทศไทยในขณะนี้ หากเปรียบเทียบกับจำนวนประชากรทั้งหมด จะเห็นว่ายังไม่เพียงพอ ยิ่งไปกว่านั้นแพทย์ส่วนมากจะอยู่ในกรุงเทพมหานครและเมืองใหญ่ ๆ ในชนบทที่ห่างไกลออกไปยังขาดแคลนแพทย์มาก ทั้งนี้ เพราะแพทย์ที่ออกไปประกอบอาชีพ ต้องผจญกับความยากลำบากนานาประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ขาดแคลนสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ยิ่งกว่านั้น เมื่อ ๑๔ ปีมาแล้ว ยังมีอันตรายจากผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ จึงหาแพทย์สมัครใจไปอยู่ยาก แต่ก็พอมีแพทย์ผู้เสียสละ อุทิศตนไปช่วยเหลือเพี่อนร่วมชาติในถิ่นทุรกันดาร ยอมผจญกับความยากลำบากและภยันตรายทั้งปวง แพทย์ผู้นั้นคือ “นายแพทย์วีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์”
นายแพทย์วีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ อายุ ๓๘ ปี เป็นชาวจังหวัดอุบลราชธานี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเวชกรรมป้องกัน (รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด) จังหวัดขอนแก่น จบแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ เมื่อจบแล้วทำหน้าที่แพทย์ฝึกหัดที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ประสงค์เป็นเวลาหนึ่งปี หลังจากนั้นก็อาสาไปเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลนาแก อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ทันที ซึ่งที่นี่ต้องประสบกับปัญหามากมาย โดยทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่มีแพทย์เพียงคนเดียว พยาบาลคนเดียว เจ้าหน้าที่ช่วยเหลืออีก ๒๐ คน จึงต้องทำหน้าที่วางแผน ออกคำสั่ง และปฏิบัติด้วยตนเอง ขณะนั้นผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์บริเวณนั้นรุนแรงมาก แต่ก็ได้ใช้ความพยายามปรับปรุงกิจการของโรงพยาบาลจนสามารถผ่าตัดนิ่วและผ่าตัดทำคลอดทางหน้าท้องได้ นอกจากนั้นได้ออกปฏิบัติงานหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ร่วมกับ กรป.กลาง และหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระบรมราชชนนี ช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยได้จำนวนมาก ปฏิบัติงานอยู่ ๒ ปี ถึงได้รับคำสั่งให้ย้ายไปเป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลมัญจาคีรี ซึ่งอยู่ภายในจังหวัดขอนแก่น
ด้วยความขยันขันแข็งและมานะอดทน ประกอบกับมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้ร่วมงาน และดูแลเอาใจใส่ผู้ป่วยทั้งในและนอกเวลาราชการอย่างสม่ำเสมอ จึงได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล ได้ปรับปรุงกิจการของโรงพยาบาลให้เจริญก้าวหน้าเป็นอันมาก รับราชการที่โรงพยาบาลมัญจาคีรีเป็นเวลา ๒ ปี นายแพทย์วีระพันธ์ฯ ได้รับทุนของโรงพยาบาลอำเภอเป็นรุ่นแรก ให้เข้ารับการอบรมหลักสูตรแพทย์ประจำบ้าน สาขาศัลยศาสตร์ทั่วไป ที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อจบการอบรมและสอบได้เป็นแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์ทั่วไปแล้ว ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านไผ่ อำเภอบ้านไผ่ ณ โรงพยาบาลบ้านไผ่ นายแพทย์วีระพันธ์ฯ นอกจากทำหน้าที่ผู้อำนวยการแล้ว ยังทำหน้าที่ศัลยแพทย์และแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปของโรงพยาบาลด้วย ที่โรงพยาบาลบ้านไผ่ ได้ปรับปรุงกิจการต่าง ๆ ของโรงพยาบาลเป็นอันมาก เช่น ปรับปรุงงานทางด้านผ่าตัด จนสามารถบริการด้านศัลยกรรมระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินปัสสาวะ ถุงน้ำดี ต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม และต่อมไทรอยด์ เป็นต้น ทำให้ชาวอำเภอบ้านไผ่และอำเภอใกล้เคียงมีความเลื่อมใสมารับบริการกันมาก มีการผ่าตัดใหญ่ ๔๐๐ – ๕๐๐ รายต่อปี
ด้วยความนิยมชมชอบของประชาชนในท้องถิ่น นายแพทย์วีระพันธ์ฯ สามารถสร้างตึกอุบัติเหตุขึ้นใหม่โดยไม่ต้องใช้งบประมาณทางราชการ รวมทั้งจัดตั้งสิ่งที่ช่วยในการปฏิบัติงานทางแพทย์อีกหลายอย่าง พัฒนาโรงพยาบาลบ้านไผ่เป็นสาขาบริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย นอกจากนั้นยังได้เริ่มงานด้านอื่น ๆ อีก เช่น จัดตั้งศูนย์ควบคุมโรคพยาธิใบไม้ตับตามหมู่บ้านต่าง ๆ จัดโรงพยาบาลบ้านไผ่ให้เป็นคลังเวชภัณฑ์ระดับอำเภอ เพื่อบริการสถานีอนามัย ๒๑ แห่ง ในเขตอำเภอบ้านไผ่ จัดกองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลนักเรียนในเขตอำเภอบ้านไผ่ ดำเนินการฟื้นฟูสภาพเด็กพิการในเขตอำเภอบ้านไผ่ และได้สนับสนุนและร่วมจัดตั้ง “ศูนย์นักบุญเยราร์ด” ซึ่งเด็กพิการได้รับบริการเป็นจำนวนมาก
นับตั้งแต่สำเร็จการศึกษาแพทย์เป็นต้นมา นายแพทย์วีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ ได้เสียสละความสุขส่วนตัว เพื่อช่วยเหลือชาวชนบทมาโดยตลอด ทำให้การสาธารณสุขของคนชนบทได้รับการดูแลเอาใจใส่และมีมาตรฐานเช่นเดียวกับคนในเมือง สมควรได้รับการยกย่องให้เป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับแพทย์ที่จะถือปฏิบัติสืบไป
มูลนิธิธารน้ำใจได้พิจารณาแล้วเห็นสมควรยกย่องให้ นายแพทย์วีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์
“เป็นคนไทยตัวอย่างประจำปีพุทธศักราช ๒๕๓๕”